วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Plant Statnol กับผลการลดไขมันโคเลสเตอรอล


บทความข้างล่างนี้ คัดลอกมาจาก

“แพลนท์ สตานอล” นวัตกรรมใหม่จากฟินแลนด์น่าทึ่งด้วยคุณสมบัติลดโคเลสเตอรอลได้ถึง 15%
Wednesday, 17 December 2008 10:37 --สุขภาพ
กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
http://www.newswit.com/news/2008-12-17/5d30c61aa6fa0a6d317342f343973962/


ซึ่งผมเห็นว่ามีรายละเอียดดี ถูกต้องตามหลักวิชาการ ส่วนผมจะให้ความเห็นภายหลังครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ปัญหาโคเลสเตอรอลสูง เป็นต้นเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคร้ายอื่นๆ ทั้งหัวใจวายและเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้มีการวิจัยกันอย่างแพร่หลายเพื่อหาวิธีที่จะลดโคเลสเตอรอล ซึ่งการวิจัยที่ประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์ ที่มีการค้นพบ “แพลนท์ สตานอล” (Plant Stanol) ซึ่งเป็นสารสกัดที่มีอยู่ในข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวไรย์ และพืชอื่นๆ จากธรรมชาติ ที่ช่วยลดโคเลสเตอรอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การคิดค้น แพลนท์ สตานอล ในฟินแลนด์ เกิดขึ้นในปี 1972 ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวฟินแลนด์มีปัญหาโคเลสเตอรอลสูง ส่งผลให้คนวัยทำงานเสียชีวิตด้วยโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด สูงที่สุดในโลก รัฐบาลฟินแลนด์จึงเร่งหามาตรการแก้ปัญหานี้ โดยมีภาครัฐและเอกชน ร่วมใจกันรณรงค์ลดโคเลสเตรอล และรัฐบาลยังได้ระดมผู้เชี่ยวชาญมาคิดค้นวิจัยสารสกัดที่จะช่วยลดโคเลสเตอรอล จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ สามารถค้นพบ แพลนท์ สตานอล ทำให้โครงการรณรงค์ลดโคเลสเตอรอลของฟินแลนด์ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ภายใน 5 ปี อัตราการตายของชาวฟินแลนด์จากโรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ในวัยทำงานลดลงถึง 70% และ องค์การอนามัยโลกยังได้จัดอันดับคุณภาพของประชากรชาวฟินแลนด์ให้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 ของโลก ซึ่งต่อมา ไรซิโอ กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ในฟินแลนด์ ได้พัฒนาแพลนท์ สตานอล ให้อยู่ในรูปของผง ของเหลวและขี้ผึ้ง เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารตามความเหมาะสม โดยจดชื่อแบรนด์ของเพลนท์ สตานอลทั้ง 3 รูปแบบนี้ว่า เบเนคอล (Benecol) ซึ่งความสำเร็จในการลดโคเลสเตอรอลของเบเนคอลทำให้แบรนด์นี้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านลดโคเลสเตอรอลจนถึงปัจจุบัน งานวิจัยทางการแพทย์กว่า 40 ชิ้น ระบุว่า หากรับประทาน แพลนท์ สตานอล อย่างต่อเนื่องจะช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดเลวซึ่งไม่ดีต่อร่างกาย (Low-density lipoprotein - LDL) ได้ถึง 15% สำหรับระยะในแสดงผลนั้น ได้มีการทำวิจัยซึ่งปรากฏผลที่น่าทึ่งนั่นคือหลังจากรับประทานแพลนท์ สตานอล อย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นผลได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไป

การศึกษาแบบทดลองสุ่มตัวอย่างแบบ Double Blind เพื่อช่วยลดความแปรผันของตัวแปรต่างๆ ยังแสดงให้เห็นว่า การรับประทาน แพลนท์ สตานอล จะช่วยลดโคเลสเตอรอลรวมและโคเลสเตอรอลชนิดเลว แต่ไม่ลดโคเลสเตอรอลชนิดดี (High-density lipoprotein - HDL) หรือมีผลกระทบใดๆ ต่อระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ การทำงานของ แพลนท์ สตานอล นั้น สามารถอธิบายได้ว่า เมื่อโคเลสเตอรอลถูกดูดซึมจากลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด (การดูดซึมนี้จะเกิดขึ้นบริเวณส่วนบนของลำไส้เล็ก ซึ่งเรียกว่ามิกส์ ไมเซลส์ (Mixed micelles)) จะเกิดปฏิกิริยา 2 อย่าง ที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมโคเลสเตอรอล ปฏิกิริยาแรกเกิดขึ้นในลำไส้ โดยแพลนท์ สตานอล จะไปแทนที่โคเลสเตอรอลจากมิกส์ ไมเซลส์ โคเลสเตอรอลที่ไม่ได้เข้ารวมตัวกับมิกส์ ไมเซลส์ จะไม่ถูกดูดซึมแต่จะถูกขับออกจากร่างกายในรูปของอุจจาระ ปฏิกิริยาที่ 2 เกิดขึ้นในเอ็พอิเธ็ทเลียลเซลล์ (epithelial cells) ในผนังลำไส้เล็ก โดยแพลนท์ สตานอล จะถูกนำเข้าไปในเอ็พอิเธ็ทเลียลเซลล์ และกระตุ้นทรานสปอร์เทอร์ โปรตีน (transporter proteins) ให้นำโคเลสเตอรอลจากเอ็พอิเธ็ทเลียลเซลล์ กลับเข้าสู่ลำไส้

นักวิจัยที่ชื่อว่า ฮอลลิไคเน็น (Hallikainen MA) และคณะ ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ โดยใช้ แพลนท์ สตานอล เป็นส่วนหนึ่งใน A US National Cholesterol Education Pragram (NCEP) Step II Diet โดยให้มีการบริโภคขนมปังไขมันต่ำผสมแพลนท์ สตานอล ที่สกัดจากไม้ 2.3 กรัม พบว่า สามารถลดโคเลสเตอรอลได้ถึง 23.6% เมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร ในขณะที่ถ้าใช้วิธีควบคุมอาหารอย่างเดียวจะลดโคเลสเตอรอลได้เพียง 9.9% ซึ่งให้ผลเหมือนกับการทดลองใช้แพลนท์ สตานอล ร่วมกับอาหารแบบฟินแลนด์นาน 12 เดือน ซึ่งทำการศึกษาในเมืองคารีเลียเหนือ (North Karelia) ประเทศฟินแลนด์

งานวิจัยของนักวิจัยที่ชื่อว่า เฮเลน่า กิลลิง (Helena Gylling) Professor of Clinical Nutrition,
University of Kuopio and Kuopio University Hospital และคณะ พบว่า แพลนท์ สตานอล สามารถลดการดูดซึมของโคเลสเตอรอลจาก 2 แหล่ง คือ โคเลสเตอรอลที่ได้จากอาหารและโคเลสเตอรอลที่เป็นส่วนประกอบของน้ำดี ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมแพลนท์ สตานอล จึงมีประสิทธิภาพในการลดโคเลสเตอรอลของเราแม้ว่าเราจะรับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอลต่ำหรือไม่มีเลยก็ตาม
สำหรับคำถามที่ว่า หากผู้ที่รับประทานยาลดโคเลสเตอรอลอยู่แล้ว การทานแพลนท์ สตานอลร่วมด้วยจะทำได้หรือไม่ และจะช่วยเสริมประสิทธิภาพหรือไม่ คำถามนี้ได้มีการวิจัยแล้ว ปรากฏว่า การใช้ยาสแตตินและแพลนท์ สตานอล ร่วมกันจะช่วยเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน เพราะทั้ง 2 ตัวนี้จะมีปฏิกิริยาในการลดโคเลสเตอรอลต่างกัน โดยยาสแตติน (Statin) (HMG-CoA reductase inhibitor) ซึ่งเป็นยาลดโคเลสเตอรอลที่นิยมใช้มากที่สุดขณะนี้ จะลดโคเลสเตอรอลโดยไปยับยั้งการสังเคราะห์โคเลสเตอรอลในตับ จากทดลองของนักวิจัยที่ชื่อ แบลร์ (Blair SN) และคณะ โดยการให้ผู้ป่วยที่มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูงรับประทานมาร์การีนผสมแพลนท์ สตานอล ร่วมกับการใช้ยาลดโคเลสเตอรอล พบว่าสามารถลดโคเลสเตอรอลได้ถึง 17%
ข้อมูลจากผลการทดลองพบว่า ปริมาณแพลนท์ สตานอล ที่เหมาะสมในการลดโคเลสเตอรอล คือ 2 กรัมต่อวัน ซึ่งหากจะรับประทานพืชจากธรรมชาติให้ได้แพลนท์ สตานอล ที่เพียงพอนั้นจะต้องรับประทานในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย เช่น จะต้องรับประทานส้ม 500 กิโลกรัม องุ่น 133 กิโลกรัม อัลมอนด์ 100 กิโลกรัม น้ำมันถั่วเหลือง 33 กิโลกรัม ข้าวสาลี 5.1 กิโลกรัม จึงจะได้รับแพลนท์ สตานอล 2 กรัม ดังนั้นการปรับประทานแพลนท์ สตานอล ที่สกัดออกมาจึงเป็นเป็นวิธีที่ดีกว่า

ผลการศึกษาด้านความปลอดภัยในการใช้ แพลนท์ สตานอล พบว่า มีความปลอดภัย เพราะเป็นสารจากธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ นอกจากนี้ ยังดูดซึมต่ำอีกด้วย โดยได้รับการรับรองจากหลายประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา ก่อนที่จะผลิตออกมาเป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มออกวางจำหน่ายถึง 29 ประเทศทั่วโลก อาทิ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยี่ยม สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน อิตาลี สเปน เกาหลี จีน ซึ่งแต่ละประเทศมีการผลิตหลากหลายรูปแบบ อาทิ นม โยเกิร์ต พาสต้า ขนมปัง คุ้กกี้ มาร์การีน สเปรด

- Law M.Plant sterol and stanol margarines and health. BMJ 2000; 320:861-4
- Plant Stanol Ester : Clinical Summary 2005
- www.benecol.net